การออมทอง หนึ่งในสินทรัพย์ Safe heaven หลักของโลก

การออมทอง

การออมทอง หรือหุ้น และกองทุนทองล้วนเป็นวิธีการทำเงินกับ ทองคำ นอกเหนือจากการซื้อทองมาเป็นเจ้าของ และเก็บไว้กับตัว ซึ่งการออมทองนี้เองก็เป็นวิธีการเป็นเจ้าของทอง โดยผู้ออมสามารถเลือกได้ว่าจะ แลกทองมาเก็บไว้เมื่อออมครบ หรือออมแบบไม่แลกก็ได้ โดยในบทความนี้จะพามารู้จักกับทองให้มากขึ้น พร้อมแนะรายละเอียดการออมทองด้วย

รู้จักประวัติศาสตร์ของทอง ก่อนไปศึกษา การออมทอง

ประวัติศาสตร์ทองคำนั้น ได้เริ่มเป็นที่รู้จัก จนกลายเป็นแหล่งเก็บความมั่งคั่งตั้งแต่ 4 หมื่นกว่าปีที่แล้ว โดยสิ่งนี้เป็นแร่ที่หาได้ยาก เก็บไว้ได้ตลอด แถมยังนำไปแบ่งหรือก่อเป็นรูปร่างต่างๆ ได้สันนิษฐานว่าเกิดจากการระเบิดของดวงดาว ซึ่งก็มีทั้งสายแร่น้อยใหญ่รวมไปถึงเกล็ดทองคำมากมาย

  • มนุษย์เมื่อ 40,000 ปีก่อนคริสตกาล ใช้ทองคำในฐานะเครื่องประดับ ไม่จนถึงรูปปั้นขนาดน้อยใหญ่ต่างๆ มากมายตั้งแต่อารยธรรมเมโสโปเตเมีย ซึ่งภายหลัง ทองคำก็ใช้บ่งบอกถึงฐานะความร่ำรวยของผู้ถือครอง
  • 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ในยุคหนึ่งของอียิปต์ ได้ใช้ทองในการสร้างเหรียญขึ้นมา เพื่อเป็นสื่อกลางในการค้ำ และหน่วยวัดมูลค่าต่างๆ เรียกว่า เชเกล โดยใช้อย่างแพร่หลายในการแลกเปลี่ยนสินค้าของยุคโรมันต่อมา
  • อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา และแอฟริกา เริ่มผลิตเหรียญโลหะเงินมามากขึ้นตามจำนวนประชากรที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ และให้ทองมีค่ามากขึ้น โดยเพิ่มการขุดเหมืองแร่ทองคำเพื่อหาทองมาค้ำประกัน ค่าของเงิน (ดอลลาร์) มันจึงเป็นระบบมาตรฐานทองคำ ตั้งแต่ในช่วงปี 1800s เป็นต้นมา
  • อนึ่งทองคำในระบบบล็อกเชน อย่างบิตคอยน์ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเหรียญสกุลเงินดิจิทัลแรกของโลก ที่ปัจจุบันมูลค่าของหนึ่งเหรียญมีมูลค่ามากกว่าทองคำหนึ่งออนซ์ไปแล้ว บ้างก็ให้ฉายาว่าทองคำดิจิทัล แต่ก็ยังมีคนอีกไม่น้อยที่ยังสะสมทองคำโดยให้เหตุผลว่าทองคำมีความเสถียรภาพกว่า และมั่งคงกว่ามากๆ 

ที่มา: ประวัติศาสตร์ทองคำ ทำไมมนุษย์ใช้ทองแทนความร่ำรวย [1]

 4 Safe heaven ทรัพย์สินปลอดภัยในยามไม่สงบ

สินทรัพย์หลบภัยของนักลงทุนในยามไม่สงบ ซึ่งหมายถึงความไม่สงบของตลาดโดยรวมของโลกจากการเคลื่อนไหวของ อเมริกา หรือยามที่ทรัพย์สินหลักที่เก็บไว้มีความผันผวน และรวมถึงสงครามเองก็ด้วย โดยทรัพย์สินปลอดภัยที่เรียกว่า Safe heaven  ในปัจจุบันก็จะมีอยู่ไม่กี่ชนิดดังต่อไปนี้

  • เงินสด (สำหรับประเทศที่ค่าเงินไม่อ่อนเกินไป) เงินสดหรือ Fiat นับเป็นอีกอย่างที่คนมักจะขายสินทรัพย์ต่างๆ มาเป็นเงินเพื่อกอดไว้ ถึงแม้จะไม่มีการเติบโต และยังลดมูลค่าตามเงินเฟ้อเมื่อเวลาผ่านไป แต่ในระยะสั้นการถือเงินสดเอาไว้จะสะดวกต่อการเลือกจังหวะซื้อสินทรัพย์อื่นๆ ได้ง่ายที่สุดนั้นเอง
  • ทองคำ พระเอกของบทความนี้นับเป็น Safe heaven ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก สังเกตง่ายๆ จากความขัดแย้งต่างๆ ทองก็จะมีราคาสูงขึ้นตลอด แถมทองคำนั้นยังไม่ลดลงตามเงินเฟ้อแบบเงินสด แถมมีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นการป้องกันความเสี่ยงที่ดีคือการค่อยๆ ออมทอง หรือไม่ก็ซื้อในจังหวะวิกฤต
  • พันธบัตรรัฐบาลสินทรัพย์ที่แม้ผลตอบแทนต่ำแต่ก็มีความปลอดภัยที่สูง เป็นการลงทุนระดับประเทศ เพราะจะได้ดอกเบี้ยในอัตราที่แน่นอน แถมเลือกระยะเวลาได้ด้วย
  • Bitcoin สินทรัพย์ใหม่ ที่ได้กระแสในการเป็นสินทรัพย์ Safe heaven ทั้งๆ ที่มีความผันผวนมากกว่า ปัญหาที่หนีมาเสียอีก แต่กระนั้นหากมองในภาพรวม Bitcoin ก็จะมีการปรับฐานใหม่ ทุกๆ 4 ปี ที่จะพุ่งขึ้นมา และค่อยๆ ลดในราคาต่ำสุดที่ขึ้นทุกครั้ง 

ที่มา: ทำความรู้จัก Safe Haven สินทรัพย์หลบภัยของนักลงทุน ในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอน [2]

สัญญาณ 3 ระยะ ที่ส่งผลต่อราคาทอง

ปัจจุบันทองคำก็ยังได้รับความนิยม เพราะไม่เพียงแต่สามารถป้องกันความเสี่ยงได้ อย่างเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศ ภาวะเศรษฐกิจหดตัว ไปจนถึงเรื่องการเมืองและสงคราม แต่ทองยังไม่มีความผันผวนอีกด้วย ยังคงโตขึ้นอย่างช้าๆ และแข็งแกร่ง ถึงกระนั้นเพื่อรับผลตอบแทนให้มากที่สุด การซื้อทองจึงต้องพิจารณาปัจจัยใน 3 สัญญาณ ดังนี้

  • สัญญาณระยะยาว สัญญาณในภาพใหญ่ที่สามารถเห็นภาพทิศทางราคาทองคำที่แม่นยำมากขึ้น อย่างแนวโน้มเศรษฐกิจจากโควิด ธีมเงินเฟ้อโลก และสงครามที่ยืดเยื้อ
  • สัญญาณระยะปานกลาง คือการพิจารณาราคาทองคำเป็นรายไตรมาส อย่างในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระยะที่จะเน้นลงทุนเป็นรายเดือนและไม่เกิน 3 เดือน จากการจับจังหวะการแกว่งตัวของราคาทองคำ และสิ่งเร้าต่างๆ เพื่อหาจังหวะซื้อและขาย
  • สัญญาณระยะสั้น การพิจารณาราคาสินทรัพย์อื่น ที่อาจเป็นปัจจัยระยะสั้นที่ส่งผลในทิศทางตรงข้าม อย่าง ขาขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ หรือค่าเงินสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และทิศทางเดียวกับทองคำ อย่างราคาน้ำมัน การปรับขึ้นของสกุลเงิน

ที่มา: 3 สัญญาณ ที่ส่งผลต่อราคาทองคำ [3]

ราคาทองคำ และการเป็นเจ้าของอย่าง การออมทอง

โดยราคาทอง ณ ปัจจุบันจะอยู่ที่ 40,850 (ทองแท่ง) และ 40,113.36 (รูปพรรณ) โดยการจะเป็นเจ้าของได้ก็จะมีอยู่หลายวิธี ทั้งการซื้อทองโดยตรงมาเก็บไว้ ซึ่งก็จะมีค่าธรรมเนียมของร้านต่างๆ การซื้อกองทุนที่ลงทุนในทอง และอีกทางเลือกง่ายๆ คือ การออมทอง

การออมทอง คือ การซื้อทองคำในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยทำได้ทั้งการทยอยสะสมทองคำด้วยเงินทุนน้อยๆ ได้ หรือจะออมทีละเยอะๆ ก็ได้ โดยสามารถทำได้ด้วยตนเอง ผ่านการยืนยันตัวไม่กี่ขั้นตอน ซึ่งข้อดีหลักๆ คือการใช้งบหลักร้อยก็สามารถเป็นเจ้าของทองคำได้ ง่ายๆ [4]

รายละเอียดง่ายๆ ใน การออมทอง

ในการออมทองในปัจจุบัน สามารถทำได้ง่าย ผ่านสมาร์ตโฟนของตัวเองได้เลย โดยออมผ่านแอปของห้างทองต่างๆ ได้ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดด้วย เมื่อมีมูลค่าครบก็จะสามารถ ไปรับทองหรือสั่งทำแบบพิเศษจากห้างทองนั้นๆ ได้เลย ซึ่งรายละเอียดที่สามารถทำได้ก็จะมีดังนี้

  • ในแอปสามารถกดออมในระบบด้วยตนเอง 100 บาทขึ้นไป
  • สามารถเลือกออมตามวัน เวลา ที่สะดวกได้ ทั้งการตั้งอัตโนมัติและกำหนดเอง
  • ไม่จำเป็นต้องออมทองเป็นรายวัน หรือทุกสัปดาห์ก็ได้
  • สามารถเพิ่มยอดการออม และจำนวนครั้งในการออมต่อวันได้

แนะนำกองทุนออมทอง แบบพาสซีฟ SCBGOLDH-SSF

กองทุนที่ลงทุนใน SPDR Gold Trust ETF พร้อมเน้นการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% และเป็นกองทุนบริหารแบบ Passive ที่ส่งผลให้มูลค่ากองทุนเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับราคาทองคำในตลาดโลกมากที่สุด

  • ประเภทกอง: Commodities Precious Metals
  • ค่าธรรมเนียม: 0% ต่อปี
  • ลงทุนขั้นต่ำ 1000 บาท
  • มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 417,868,225.53 บาท
  • ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี: +18.46%

สรุป การออมทอง เติบโตอย่างมั่งคงพร้อมรักษาเงินให้มั่งคั่ง

การออมทอง

การออมทอง อีกทางเลือกหนึ่งในการออมทอง ที่เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัย ที่ทั้งกระจายความเสี่ยงและป้องกันความผันผวนจากปัจจัยอื่นๆ ได้ พร้อมแนะนำรายละเอียดการออมทอง และกองทุนน่าสนใจ ที่ทำให้การเป็นเจ้าของทองง่ายขึ้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง