ดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร ความพิเศษ และวิธีการลงทุน

ดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร

ดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร บทความนี้จะมีชี้แจ้งข้อสงสัยนี้ ว่ามีดีอย่างไร ? บอกความมหัศจรรย์ของสิ่งนี้ ให้เข้าใจในแก่นของคำว่า ดอกเบี้ยทบต้น พร้อมพูดถึงวิธีการที่ทำให้ได้รับผลกำไรมากที่สุด ก่อนจะเป็นการเปรียบเทียบ ของสองนิสัยการออม ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการทบเงินต้น

ดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร ทำไม ไอน์สไตน์ ต้องยกย่อง ?

Compound interest หรือ ดอกเบี้ยทบต้น คือ การที่เรานำเอาดอกเบี้ยหรือเงินปันผล เข้าไปลงทุนต่อกับเงินต้นที่ลงไว้ในตอนแรก หรือปล่อยให้เงินทบกันไปเรื่อยๆ ขณะที่ลงทุนไปเพิ่มอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งผลกำไรของดอกเบื้ยก็จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนทุน ยิ่งนานไปก็จะทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่ไอน์สไตน์ยกย่อง ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ 8 ของโลกเลย

ยกตัวอย่าง การลงทุนในเงิน 100000 บาทในหุ้นที่ได้ดอกเบี้ย 10% ผ่านไปหนึ่งปีก็จะได้เงินมา 10000 หากไม่ถอนแล้วลงทุนต่อไปอีกปี ก็จะได้ดอกเบิ้ยเป็น 10% ของ 110000 ก็จะได้อีก 11000 เป็น 121000 และหากมันทบเรื่อยๆ ไปถึง 10 ปีก็จะได้เป็น 259374 ซึ่งก็เป็นเงินฟรีๆ ที่ได้มาจากการรอ และหากยังมีการลงทุนไปอย่างสม่ำเสมอกำไรที่จะได้จากทุนก็อาจมากกว่านี้อีกด้วย

วิธีการ รับกำไรให้มากที่สุดจาก ผลตอบแทนทบต้น

การทบเงินก็เหมือนวิธีทำให้เมล็ดเงินเติบโตเป็นต้นเงินสูงใหญ่ได้เร็วขึ้น ซึ่งในการลงทุนก็จะเป็นการออมเงินในส่วนของเงินเย็นที่เราสามารถออมทิ้งไว้ได้ไม่จำเป็นในการนำมาใช้ โดยกำไรจากผลตอบแทนทบต้นที่ดีที่สุดก็คือออมไปเรื่อยๆ อย่าไปถอนออกมา

  • ลงทุนในระยะยาว อย่างที่บอกไปการจะได้ดอกเบี้ยมาทบก็ต้องรอ 1 ปีหรือตามนโยบายของหุ้นตัวนั้นๆ ซึ่งการลงทุนแบบนี้เรียกว่าแบบ Passive ที่ยิ่งมีระยะเวลาในการออมที่นาน ก็ยิ่งได้รับกำไรที่เพิ่มขึ้นแบบทบไป ทุกๆ ปี ยิ่งนานวันความชัดเจนของเงินที่ได้ก็มีมากยิ่งขึ้น นี้ยังไม่รวมการออมแบบสม่ำเสมอ หรือ DCA นะ
  • ลงทุนเงินปันผลซ้ำ ก็คือการนำปันผลที่ได้มาลงทุนไปกับดอกเบี้ยที่ได้ ซึ่งก็จะมีในบางกองทุน หรือหุ้น จะมากหรือน้อยอยู่ที่นโยบาย ซึ่งการนำปันผลไปออมอีกก็จะช่วยเร่งกำไรที่สูงขึ้นได้อีกด้วย
  • เพิ่มเงินลงทุนสม่ำเสมอในทุกๆ เดือน นี้ก็เป็นอีกหัวใจหลักของการออมแบบทบต้น เพราะการออมแบบนี้ก็จะเป็นการเพิ่มเงินต้นได้ในแต่ละปีให้สูงขึ้นไปอีก โดยการฝากอย่างสม่ำเสมอนี้จะเรียกว่าการ DCA ที่จะแบ่งทุนออกเป็นก้อนย่อยๆ หรือไม่ก็เป็นการค่อยๆ ลงทุนไปตามทุนที่ลงไปก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเฉลี่ยการลงทุนที่เพิ่มต้นทุนได้ต่อเนื่อง

ที่มา : “ดอกเบี้ยทบต้น” พิเศษอย่างไร? ถึงขั้นไอน์สไตน์ยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์สิ่งที่ 8 ของโลก [1]

เทียบ ข้อดี และ ข้อเสียของดอกเบี้ยทบต้น

ดอกเบี้ยแบบทบต้นแน่นอนว่าบทความนี้จะเป็นการพูดถึงความน่าสนใจ ซึ่งก็คือข้อดีของมัน โดยให้หัวข้อนี้จึงมาลิสต์ข้อดีของการทำดอกเบี้ยทบต้นให้เห็นภาพชัดๆ ที่ข้อดี และข้อเสียที่ถึงจะดูเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม 

ข้อดีของดอกเบี้ยทบต้น

  • มีผลตอบแทนที่เสถียร โดยนี่เป็นข้อดีของดอกเบี้ยที่เห็นได้ชัด เพราะเป็นต้นทุนจากของเราเอาที่เพิ่มเงินออมได้เรื่อยๆ แบบอัตโนมัติทุกๆ ปี ยิ่งนานวันก็ยิ่งงอกงาม
  • ถือเป็นการลงทุนที่ได้เงินแบบ Passive Income อย่างหนึ่ง ที่ถึงแม้จะได้ใช้เงิน แต่มูลค่าเงินของเราก็จะเพิ่มขึ้นได้แบบทุกๆ ปีโดยคูณทบไปเรื่อย
  • ดีกว่าการเก็บเงินไว้โดยไม่ลงทุน แถมเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนแบบง่ายๆ

ข้อเสียของดอกเบี้ยทบต้น 

  • เป็นการลงทุนที่ใช้เวลานานถึงจะเห็นผลชัดเจน อาจจะเป็นเงินออมที่รักษามูลค่าไว้จนเกษียณก็ได้ อย่างการยกตัวอย่างไปว่า 10 ปี หรือ 20 ปี การทำดอกเบี้ยทบต้นจึงจำกัดที่อายุด้วย ยิ่งเด็กก็ยิ่งคุ้มค่า
  • ต้องใช้วินัยสูง กล่าวคือเงินที่ลงทุนต้องเป็นเงินเย็นที่เป็นส่วนสุดท้ายที่คิดจะหยิบไปใช้จ่าย แถมการออมทุกเดือนอย่างการทำ DCA ก็ยังใช้วินัยในการออมที่สม่ำเสมอด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • สภาพคล่องต่ำ เพราะว่าเราไม่ควรนำเงินต้นหรือผลตอบแทนออกมาใช้ได้ เพราะหากจะเกมเงินต้นไว้ออมต่อ แต่ถอดเอากำไรส่วนต่างที่ได้มาใช้ รอบต่อไปก็ได้ดอกเบี้ยเท่าเดิม ไม่ใช่การทบต้น

ที่มา : ดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) เทคนิคลงทุนที่สายออมห้ามพลาด [2]

สรุป ดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร สิ่งมหัศจรรย์ที่ 8 ของโลก

ดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร

การลงทุนในแบบที่ต้องใช้วินัย และแนวคิดในหารแบ่งเงินที่ดีเป็นอย่างมาก โดยความคิดนี้ก็คือการออมในหุ้น กองทุน หรือการฝากเงินเฉยๆ ก็ได้ ซึ่งในความเสี่ยงต่ำการทบต้นก็จะมีความแม่นยำ และหากเพิ่มความเสี่ยงมาอีกหน่อยก็อาจได้กำไรที่สูงขึ้น หรือไม่ก็น้อยลง แต่อย่างไรแล้วการถือแบบดอกเบี้ยทบต้นก็นับเป็นการออมที่ส่งผลได้ที่ที่สุดในโลกแล้วหากเทียบแบบระยะยาว

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง