รู้จักกับ ดัชนีตราสารหนี้ เข็มทิศของผู้ลงทุนในตราสารหนี้

ดัชนีตราสารหนี้

ดัชนีตราสารหนี้ หรือ Bond Index ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่มีประโยชน์หลายด้านในการลงทุนกับตราสารหนี้ที่เป็นทั้งการพักเงิน หรือเป็นอีก สินทรัพย์ลงทุน ที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนสูงกว่าธนาคารเล็กน้อย แถมเลือกระยะได้ด้วยตั้งแต่ 1 ปีถึง 30 ปีเลยทีเดียว ซึ่งบทความนี้ก็จะพามารู้จักกับตราสารหนี้ ว่ามีการลงทุนแบบไหน และตัวช่วยดีๆ อย่างกองทุนตราสารหนี้ ว่าน่าสนใจอย่างไร

การลงทุนแบบไหนที่เรียกว่า ตราสารหนี้ และมีกี่แบบ

ก่อนจะไปรู้จัก ดัชนีตราสารหนี้ ก็ต้องรู้จักสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่เราผู้ลงทุนจะมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ โดยผู้ออกตราสารหนี้ก็จะเป็นรัฐบาลกับบริษัทต่างๆ ซึ่งจะมีสถานะเป็นลูกหนี้เรานั่นเอง หากเป็นการออกโดยรัฐฯ ก็จะเรียกกันว่าพันธบัตรรัฐบาล และส่วนของเอกชนก็จะเป็นตราสารหนี้เอกชน หรือหุ้นกู้เอกชน [1] ซึ่งข้อดีของการมีลูกหนี้เป็นรัฐบาลก็คือ ไม่มีโอกาสการผิดนัดชำระเว้นแต่ประเทศจะล้มละลาย แถมยังมีให้เลือกหลายแบบด้วย

แบ่งตามประเภทผู้ออกตราสาร

  • ตราสารหนี้รัฐ หรือ พันธบัตรรัฐบาล ก็อย่างที่บอกไปว่าคือตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐ โดยหน่วยงานต่างๆ อย่าง พันธบัตรออมทรัพย์ พันธบัตรรัฐ ตั๋วเงินคลัง และอีกมากมายให้เลือก 
  • ตราสารหนี้เอกชน การออกตราสารหนี้จากเอกชน สำหรับบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินไปหมุนเวียนบริหารจัดการต่างๆ และให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ยืมผ่านระบบตราสารหนี้

แบ่งตามการจ่ายดอกเบี้ย

  • จ่ายดอกเบี้ยประจำ จะเป็นการกำหนดการจ่ายเป็นงวดๆ มักพบในตราสารระยะกลางถึงยาว โดยจะจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน หรือ 3 เดือน แม้กระทั่งรายเดือน ก็แล้วแต่บริษัทหรือหน่วยงานนั้นๆ จะกำหนด
  • จ่ายดอกเบี้ยทบต้น จะเป็นการจ่ายดอกเบี้ยเมื่อครบอายุสัญญาที่เราเลือกไว้ เช่น 1 ปี 10 ปี หรือ 30 ปี โดยเราจะได้ดอกเบี้ยรวดเดียวกับเงินต้นที่ฝากไปเลย
  • ไม่จ่ายดอกเบี้ย ยังมีตราสารในแบบที่ไม่จ่ายดอกเบี้ยด้วย ซึ่งจะสังเกตได้จากการขายในราคาที่ต่ำกว่าปกติมาก โดยผลตอบแทนส่วนนี้จะเป็นการได้ประโยชน์จากราคาตราสารที่เพิ่มขึ้น หรือส่วนต่างเมื่อซื้อในราคาที่ต่ำกว่าปกติ กับตอนขาย 

ที่มา: หุ้นกู้ ตราสารหนี้ (Bond) คืออะไร? มีอะไรบ้าง [2]

ระยะของตราสารหนี้ทั้งสามมีจุดเด่นอะไรบ้าง ?

หุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาลเหล่านี้เรายังสามารถเลือกระยะเวลาในการฝากได้ด้วย ซึ่งสามารถเลือกได้ตั้งแต่ 1 – 30 ปีเลย มันจึงมีการแบ่งระยะตราสารหนี้ออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน โดยแต่ละช่วงก็จะมีจุดเด่น ข้อดีข้อเสียที่ต่างกันออกไป

  • ตราสารหนี้ระยะสั้น: เป็นตราสารหนี้ที่อายุน้อยกว่า 1 ปีหรือเท่ากับ 1 ปีเหมาะสำหรับการพักเงินในระยะสั้นและต้องการนำเงินไปใช้ทำอย่างอื่น ด้วยการที่มีระยะสั้นผลตอบแทนที่ได้จึงน้อยที่สุด แต่ก็มีความเสี่ยงในระยะที่ปลอดภัยสูงสุดเลย
  • ตราสารหนี้ระยะกลาง: ตราสารหนี้ระยะนี้จะมีอายุสัญญาอยู่ที่ 2-10 ปี ซึ่งเหมาะกับการน้ำเงินมารักษาความเสี่ยงอื่นๆ อย่างยิ่ง มีความเสี่ยงปานกลาง พร้อมผลตอบแทนที่ดีกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น
  • ตราสารหนี้ระยะยาว: ในระยะนี้จะเป็นระยะที่มีความเสี่ยงสูงมากที่สุด ซึ่งความเสี่ยงที่ว่านั่นก็คือ ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้นั่นเอง ยิ่งในการลงทุนกับบริษัทเอกชน โดยระยะนี้จะมีอายุสัญญาอยู่ที่ 10-30 ปีเลย เรียกได้ว่าเอาเงินไว้ใช้ตอนเกษียณ แต่หากพูดถึงผลตอบแทนแน่นอนว่า High-risk, High-return ความเสี่ยงสูงผลตอบแทนก็ต้องสูงที่สุดใน 3 ระยะนี้

ที่มา: ตราสารหนี้คืออะไร อยากเริ่มต้นลงทุนต้องรู้อะไรบ้าง? [1]

ความหมายและประเภท ดัชนีตราสารหนี้ Bond Index

ในเมื่อรู้จักประเภทของตราสารหนี้แล้ว หัวข้อนี้จึงจะพามารู้จะตัวช่วยที่คู่กันคือดัชนีตราสารหนี้ โดยสิ่งนี้เปรียบเหมือนเข็มทิศที่ใช้ติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดตราสารหนี้โดยรวม ซึ่งจะมีดัชนีที่แบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ตามตราสารที่เราถือด้วยดังนี้ 

  • ดัชนีตราสารหนี้ไทย มีจุดประสงค์คือการวัดความเคลื่อนไหวของการลงทุนทั้งตลาด
  • ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล ใช้วัดความเคลื่อนไหว เฉพาะเจาะจงของพันธบัตรรัฐบาลและแสดงกราฟออกมาโดยรวม
  • ดัชนีพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ วัดผลการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ
  • ดัชนีหุ้นกู้ภาคเอกชน ติดตามสภาวะตลาดตราสารโดยรวม ซึ่งจะทำให้มองเห็นความน่าเชื่อถือ และความเปลี่ยนแปลง

ที่มา: รู้จัก Bond Index: เข็มทิศนำทางตลาดตราสารหนี้ [3]

ประโยชน์ ดัชนีตราสารหนี้ พร้อมแนะนำกองทุนน่าสน

ดัชนีตราสารหนี้ เป็นเครื่องมือดัชนีที่ใช้ติดตามความเคลื่อนไหวตราสารหนี้ทุกประเภท ซึ่งสามารถช่วยวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของราคา อัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงการดูแนวโน้มของตลาดได้ด้วย แถมยังใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐาน ไปเทียบผลดำเนินงานของพอร์ตของเรากับผลตอบแทนตลาดโดยรวมได้ โดยทั้งหมดนี้เราสามารถให้คนอื่นทำให้ได้ด้วย ผ่านการซื้อกับกองทุนต่างๆ ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลาย

KKP PLUS กองทุนพักเงินความเสี่ยงปานกลาง

กองทุนที่ลงทุนกับตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล รวมไปถึงเงินฝาก และอื่นๆ ที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบหรือสถาบันการเงินเป็นผู้ออก โดยเป็นกองทุนระยะสั้นที่ความเสี่ยงต่ำมาก ลงทุนในพันธบัตร 89.47% เงินฝาก/บัตรเงินฝาก 8.28% สินทรัพย์และหนี้สินอื่น 2.25% โดยมีรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมดังนี้

  • ความเสี่ยงของกองทุน: ระดับ 1 (เสี่ยงต่ำ)
  • อายุทรัพย์สินที่ลงทุน: 1 เดือน 5 วัน
  • ค่าธรรมเนียม: 0% ในการซื้อขาย
  • เงินขั้นต่ำในการซื้อ: 100 บาท
  • อัตราผลตอบแทน (หากถือจนครบกำหนด): 1.64%

KKP MP กองทุนระยะสั้น ความเสี่ยงต่ำ

กองทุนที่ลงทุนกับตราสารหนี้ต่างๆ ทั้งของภาครัฐ และเอกชนที่มีความมั่นคง น่าเชื่อถือจากเครดิตที่อยู่ในเกรด BBB+ ขึ้นไป ซึ่งมีสัดส่วนเป็นพันธบัตรและตั๋วเงินคลัง 33.07% ตั๋วแลกเงิน 27.94% และเงินฝาก/บัตรเงินฝาก 24.87%

  • ความเสี่ยงของกองทุน: ระดับ 4 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ)
  • อายุทรัพย์สินที่ลงทุน: 3 เดือน 17 วัน
  • ค่าธรรมเนียม: 0% ในการซื้อขาย
  • เงินขั้นต่ำในการซื้อ: 1000 บาท
  • อัตราผลตอบแทน (หากถือจนครบกำหนด): 1.76%

สรุป ดัชนีตราสารหนี้ ตัวช่วยในการลงทุนตราสารหนี้

ดัชนีตราสารหนี้

ดัชนีตราสารหนี้ ดัชนีที่ช่วยให้เห็นภาพรวม และความเป็นไปของตลาดตราสารหนี้ ซึ่งก็จะแบ่งไปตามประเภท และรวมทั้งหมดได้ด้วย หรือจะมองหาทางเลือกใหม่ในการลงทุนกับกองทุน ที่จะมีผู้วิเคราะห์ดัชนีตัวนี้ให้เราตลอด 24 ชม. แถมเลือกระยะได้ตามที่เราต้องการ แค่แลกด้วยผลตอบแทนที่ต่ำกว่า

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง