ถ่านหิน (Coal) มีความน่าสนใจอย่างไร

ถ่านหิน (Coal)

ถ่านหิน หรือคาร์บอนสีดำ หนึ่งในเชื้อเพลิงธรรมชาติยอดเยี่ยม ที่มีความสำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้า และพลังงานความร้อน เพื่อป้อนให้กับโรงงานเหล็ก ซีเมนต์ ปุ๋ย โลหะ บ้านเรือน และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ

และด้วยน้ำหนักที่เบา ราคาที่ถูก ทำให้ถ่านหินหรือคาร์บอน เชื้อเพลิงธรรมชาตินี้ จึงถือได้ว่า เป็นแหล่งพลังงานที่มีประโยชน์ มีความจำเป็น มีความสำคัญ และมีคุณค่าต่อมนุษย์เรามาก

ถ่านหิน (Coal) คืออะไร

ถ่านหิน (Coal) [1] คือ แหล่งพลังงานเชื้อเพลิงจำเป็นชั้นยอด ที่เกิดจากซากสิ่งมีชีวิต อย่างพืชและสัตว์ ในยุคดึกดำบรรพ์ ที่เกิดการสะสมทับถมกัน เป็นเวลานานกว่าหลายร้อยล้านปี แล้วตกตะกอนเป็นชั้นๆ ที่อัดแน่นและสลาย แปรเปลี่ยนสภาพไป

โดยมีองค์ประกอบส่วนใหญ่ เป็นธาตุคาร์บอน พร้อมกับมีก๊าซและของเหลว ปะปนอยู่เล็กน้อย ทำให้เกิดเป็นเชื้อเพลิง ที่สามารถจุดติดไฟได้นั่นเอง

ถ่านหิน ประกอบไปด้วยธาตุอะไรบ้าง

ธาตุที่สำคัญของถ่านหินนั้น จะประกอบไปด้วย 4 ธาตุหลักๆ ดังนี้

  • คาร์บอน Carbon : (C)
  • ไฮโดรเจน Hydrogen : (H)
  • ไนโตรเจน Nitrogen : (N)
  • ออกซิเจน Oxygen : (O)
  • อื่นๆ เช่น กำมะถัน

ประเภทของถ่านหิน (Coal) จากการเกิดสะสม ตามลำดับขั้น

  • Peat (พีต)

ขั้นที่ 1 จะประกอบไปด้วยซากพืช ซากสัตว์ ที่มีการสลายตัวยังไม่หมด จะมีลักษณะที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อาทิเช่น กิ่งไม้ ใบไม้ ที่มีสีคล้ำ ตั้งแต่สีน้ำตาลไปจนถึงสีดำ มีความชื้นสูง และมีคาร์บอนอยู่ประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ หากจะนำขั้นนี้ ไปใช้ประโยชน์อย่าง เชื้อเพลิง จะต้องมีการไล่ความชื้นออกให้หมด จนแห้งก่อน ถึงจะทำได้

  • Lignite (ลิกไนต์)

ขั้นที่ 2 จะเป็นถ่านหินขั้นที่ ซากพืช ซากสัตว์ สลายไปจนเกือบหมด มองไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง หรือลักษณะภายนอกด้วยตาเปล่า มีความชื้นสูง ผิวด้าน เนื้อเหนียว สีคล้ำเข้ม มีคาร์บอนอยู่ประมาณ 60-75 เปอร์เซ็นต์ จัดอยู่ในถ่านหินคุณภาพต่ำ และเมื่อติดไฟโดนความร้อน จะก่อให้เกิดควันไฟ และเถ้าถ่านในปริมาณที่มาก ส่วนใหญ่มักนำไปใช้ประโยชน์ ในการผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานความร้อน และบ่มยาสูบ ตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ 

  • Sub–bituminous (ซับบิทูมินัส)

ขั้นที่ 3 จะเป็นถ่านถินที่มีทั้งเนื้ออ่อน และเนื้อแข็ง มีระยะเวลากการเกิดนานกว่า Lignite ลักษณะเป็นสีคล้ำถึงดำ ผิวมันและด้าน ความชื้นต่ำอยู่ที่ 25-30 เปอร์เซ็นต์ ออกซิเจนสูง จัดเป็นเชื้อเพลิงมีคุณภาพ เหมาะสำหรับใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ในโรงงานอุตสาหกรรม

  • Bituminous (บิทูมินัส)

ขั้นที่ 4 จะเป็นถ่านหินอายุมาก ที่มีประมาณ 300 ล้านปีขึ้นไป มีปริมาณคาร์บอนสูง ออกซิเจนและความชื้นต่ำ มีลักษณะเป็นเนื้อแข็งและแน่น สีน้ำตาลเข้ม สีคล้ำ ไปจนถึงสีดำมืดสนิท ที่มีความมันวาว จัดเป็นถ่านหินคุณภาพสูงอันดับ 2 รองจาก Anthracite สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิง ที่ให้ความร้อนได้ดี จึงมักนิยมใช้เป็นเชื้อเพลิง เพื่อการถลุงโลหะ ผลิตเหล็กกล้า และซีเมนต์

  • Anthracite (แอนทราไซต์)

ขั้นที่ 5 จัดได้ว่าเป็นถ่านหินคุณภาพดีสูงสุด ในทั้งหมด 5 ประเภท โดยมีอายุมากถึง 350 ล้านปีขึ้นไป เป็นถ่านหินที่แปรสภาพเรียบร้อยสมบูรณ์ ภายใต้ความร้อน และแรงดัน ที่มากมหาศาลของผิวใต้เปลือกโลก ซากพืช ซากสัตว์ และอื่นๆ ถูกสลายไปจนหมด เหลือเพลียงแต่คาร์บอนเพียวๆ จึงทำให้ถ่านหินขั้นที่ 5 ประเภทแอนทราไซต์นี้ มีความชื้นต่ำ เนื้อแข็ง สีดำสนิท ผิวเงามันวาวสวย ติดไฟยาก และเมื่อติดแล้วเปลวไฟจะมีสีฟ้า ออกน้ำเงินจางๆ ที่สวยงาม

ที่มา : ถ่านหิน : กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน [2]

ถ่านหิน สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง

ถ่านหิน (Coal)
  • ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
  • ใช้ในการผลิตปูนขาว ปูนซีเมนต์
  • ใช้ในการถลุงโลหะ
  • ใช้ทำถ่านสังเคราะห์
  • ใช้ในการบ่มใบยาสูบ
  • ใช้ในการผลิตพลังงานต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรม
  • ใช้เป็นส่วนประกอบในการทำปุ๋ย และวัสดุก่อสร้าง

สรุป ถ่านหิน (Coal)

ถ่านหิน (Coal) เป็นเชื้อเพลิงธรรมชาติ ที่ให้พลังงานประเภทหนึ่ง สามารถติดไฟได้ ใช้สำหรับการผลิตพลังงานต่างๆ ของโลก และอื่นๆ ที่สำคัญยังมีราคาถูกกว่าน้ำมันค่อนข้างมาก และสามารถหาได้ง่าย เนื่องจากมีอยู่กระจายทั่วไปบนโลก

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง