สินค้าส่งออกประเทศไทย มีอะไรบ้างพร้อมข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง

สินค้าส่งออกประเทศไทย

สินค้าส่งออกประเทศไทย มีหลายชนิดด้วยกัน หลายท่านคงจะทราบกันดีว่า ประเทศไทย ผลิตสินค้าทางเกษตรเยอะ ไปที่ไหนก็มักจะพบนาข้าว สวนพืชผักผลไม้ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด แต่จริงๆแล้วสินค้าชนิดใดของไทยกันแน่ ที่มีสัดส่วนการส่งออกมากที่สุด

สินค้าส่งออกประเทศไทย เรียงอันดับจากมูลค่าที่มากที่สุด

สินค้าส่งออกประเทศไทย หากนำมาเทียบเป็นหน่วยมูลค่า จะมีลำดับการส่งออก ดังต่อไปนี้

  1. ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่าส่งออก 3.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
  2. รถยนต์ และชิ้นส่วนอะไหล่ มูลค่าส่งออก 3.0 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
  3. อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่าส่งออก 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
  4. อัญมณี รวมถึงเครื่องประดับต่างๆ มูลค่าส่งออก 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
  5. ผลิตภัณฑ์จากยางพารา มูลค่าส่งออก 1.0 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ ข้อมูลการส่งออก เดือนกันยายน 2566 [1]

ทำไมสินค้าเกษตรติดอันดับ สินค้าส่งออกประเทศไทย น้อย

สินค้าส่งออกประเทศไทย

จากข้อสงสัยข้างต้น ถึงแม้ประเทศไทยเราจะเป็น พื้นที่เกษตรกรรมขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณถึง 153 ล้านไร่ คิดเป็น 47.77% ของที่ดินประเทศไทยทั้งหมด [2] พื้นที่เกษตรกรรมกว่าครึ่งประเทศนี้ ทำให้เราผลิตอาหารได้มาก จนถูกเรียกว่าเป็นประเทศครัวของโลก

สินค้าเกษตรเหล่านั้น ถูกบริโภคส่วนใหญ่ภายในประเทศ มากกว่าการส่งออก เราจะสังเกตได้ว่า อาหารการกินในประเทศเรา มีมากมายหลากหลาย จนแทบจะเหลือเฟือ กินเท่าไหร่ก็ไม่หมด จนทำให้สินค้าเกษตรเหล่านี้ บางครั้งก็ต้องเหลือทิ้ง

สัดส่วนการผลิตต่อพื้นที่ และมูลค่าในภาพรวมของสินค้าต่างๆ

สืบเนื่องจากสินค้าเกษตร ตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้น พื้นที่สำหรับใช้ผลิตสินค้าเกษตร เพื่อการส่งออกนั้น ใช้พื้นที่มากกว่าสินค้าประเภทอื่น ใน 1 ไร่ สามารถผลิตข้าวได้เพียงไม่กี่ตัน และมูลค่าของข้าวเหล่านั้น ก็ไม่ได้ถือว่าสูงมาก

ต่างจากสินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ใช้พื้นที่การผลิตน้อยกว่า แต่กลับได้สินค้าที่มีมูลค่าสูงกว่ามาก นี่จึงเป็นอีก 1 เหตุผล ที่แม้ไทยจะผลิตสินค้าเกษตรโดยใช้พื้นที่กว่าครึ่งประเทศ แต่มูลค่าเหล่านั้น ก็ยังไม่เทียบเท่าสินค้าอื่น ที่มีมูลค่าสูง และใช้พื้นที่น้อย

สินค้าส่งออกประเทศไทย ส่งไปแห่งหนใดบ้าง

สินค้าส่งออกประเทศไทย

สินค้าส่งออกประเทศไทย ทำให้เกิด ระบบขนส่งกับเศรษฐกิจ ที่ได้สร้างเส้นทางเศรษฐกิจกับประเทศปลายทาง มีสัดส่วนการส่งออกต่อประเทศต่างๆ ดังต่อไปนี้

  1. สหรัฐอเมริกา 26.8%
  2. จีน 15.3%
  3. ญี่ปุ่น 12.7%
  4. ฮ่องกง 8.8%
  5. ออสเตรเลีย 7.2%

ที่มา: การทรวงพาณิชย์ เดือนกุมภาพันธ์ 2567 [3]

สินค้าของไทยถูกส่งออกไปที่ สหรัฐอเมริกามากที่สุด รองมาเป็นจีน ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าเกษตร และอาหาร ส่วนในประเทศญี่ปุ่น กับฮ่องกง จะเป็นสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ ในสัดส่วนที่มากกว่า

สินค้าส่งออกประเทศไทย กับความได้เปรียบและเสียเปรียบในมูลค่าเงิน

แน่นอนอยู่แล้วว่าหากมีการส่งออกสินค้า หรือนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่น จะมีเรื่องของมูลค่าตัวเงิน อัตราแลกเปลี่ยน พร้อมกับความได้เปรียบ เสียเปรียบ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งสิ่งนี้จะผันผวนไปตามสภาพเศรษฐกิจ ระหว่าง 2 ประเทศคู่ค้า

ความได้เปรียบในการส่งออก เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้น หรือสกุลเงินของประเทศคู่ค้าอ่อนกว่า ทำให้ประเทศที่เราส่งสินค้าไป ต้องใช้เงินมากขึ้นในการซื้อสินค้าของเรา จะทำให้เกิดส่วนต่างของมูลค่า ที่ทำให้ผู้ส่งออกไทย ได้เปรียบทางการค้า

ในทางกลับกัน หากเงินของไทยอ่อนมาก หรือสกุลเงินประเทศคู่ค้าแข็งกว่าเรา จะทำให้ปลายทางที่เราส่งออกไป ใช้เงินน้อยลงในการซื้อสินค้าไทย จึงทำให้เกิดส่วนต่างในมูลค่า ที่ทำให้ผู้ส่งออกไทย เสียเปรียบทางการค้า

สินค้าส่งออกประเทศไทย กับทิศทางในอนาคตข้างหน้า

ทิศทางในอนาคตข้างหน้านี้ ขึ้นอยู่กับการผลิตสินค้า และภาคอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้น ปัจจุบันประเทศไทยมีการลงทุนในอุตสาหกรรม ทั้งการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบสัดส่วนกับภาคการเกษตร

เราจะกลายเป็นประเทศทางอุตสาหกรรม ที่มีมูลค่าการส่งออก สินค้าอุตสาหกรรมที่เราได้กล่าวไปเหล่านี้ ในสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อยๆ มีนิคมอุตสาหกรรม ที่เกิดขึ้นใหม่ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศอุตสาหกรรม ที่มีการเติบโตในภูมิภาคนี้

สรุป สินค้าส่งออกประเทศไทย

สินค้าส่งออกประเทศไทย ก็มีทั้งสินค้าภาคอุตสาหกรรม สินค้าส่งออกไทย ภาคการเกษตร ปัจจุบันประเทศไทยมีการเติบโตที่ดีในด้านอุตสาหกรรม รวมถึงมีการผลิตสินค้าเกษตร ที่มีคุณภาพมาตรฐานมากยิ่งขึ้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง