![เด็กกัญ](https://qbiz.org/wp-content/uploads/2024/06/เด็กกัญ-1-300x169.webp)
หนึ่งในกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF ซึ่งเป็นกองทุน ที่ถูกตั้งคำถามมากมาย ว่ากองทุน RMF หรือ Retirement Mutual Fund เหมาะสำหรับกลุ่มคนใกล้เกษียณจริงหรือไม่ และหากไม่ใช่ผู้สูงวัย จะสามารถลงทุนกับกองทุนนี้ได้หรือไม่ บทความนี้จะพาไปหาคำตอบ สำหรับทุกคำถาม ที่เกี่ยวกับกองทุนระยะยาวนี้
RMF หรือ Retirement Mutual Fund คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนการออมเงิน สำหรับวัยเกษียณของคนไทย เป็นการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง หรือที่เรียกกันว่าการลงทุนระยะยาว ใกล้เคียงกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) [1]
ซึ่งนโยบายการลงทุนแบบนี้ มีความเปิดกว้างในการลงทุน คือ การที่สามารถลงทุน ในสินทรัพย์หลายประเภท ไม่ใช่แค่หุ้นอย่างเดียว ผ่าน แอปเทรดหุ้น ก็ได้เช่นกัน อาทิเช่น พันธบัตรรัฐบาล, ตลาดเงิน, ตราสารหนี้เอกชน, หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ และทองคำ เป็นต้น แต่ก็ยังเป็นกองทุนที่ มีความเสี่ยง ตั้งแต่ระดับต่ำ-กลาง-สูง
หากวิเคราะห์จากจุดประสงค์ของ กองทุน RMF ซึ่งเป็นกองทุนที่จะสนับสนุนการออมเงินในระยะยาว ในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับด้านการเงิน ของผู้สูงวัยหลังการเกษียณอายุงาน และการลงทุนกองทุนออมเงินตัวนี้ สามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ดังนั้นถึงผู้ลงทุนจะเป็น ประชาชนของกลุ่มไหน หรือทำงานแบบใดก็ตาม สามารถลงทุนกับกองทุนนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานประจำ รับงานฟรีแลนซ์ หรือแม้กระทั่งเป็นเจ้าของธุรกิจ กองทุนการออมเงินนี้ ก็ถือเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ดีได้เช่นกัน
ก่อนที่จะเริ่ม เปรียบเทียบกองทุน RMF กับ SSF มารู้จักกับ SSF แบบคร่าวๆ กันก่อนว่าคืออะไร
กองทุน SSF (Super Saving Funds) คือ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาวเช่นกัน แต่จะพิเศษกว่ากองทุนรวมทั่วไป ตรงที่รัฐบาลอนุญาตให้ นำจำนวนเงินที่ซื้อกองทุน SSF มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยจะเป็นการลดหย่อนแบบปีต่อปี ซื้อปีไหน ก็ลดหย่อนปีนั้น ในกรอบเวลาปี 2563-2567 [2]
หัวข้อที่น่าสนใจ ในการเปรียบเทียบกองทุน RMF กับ SSF มีดังนี้
สำหรับผู้ที่สนใจ ลงทุนกับกองทุนออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณอายุงาน ต้องยอมรับทั้ง 3 เงื่อนไขหลัก ของกองทุนให้ได้ แม้ว่ากองทุนตัวนี้ สามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้ก็จริง แต่หากไม่ทำตาม 2 เงื่อนไขนี้ ก็จะโดนโทษเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้เช่นกัน ดังนั้นหากอยากลงทุนกับ RMF ต้องทำตาม 3 เงื่อนไขต่อไปนี้ให้ได้
กองทุนออมเงินระยะยาว สามารถใช้ในการลดหย่อนภาษี ได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อนำมานับรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (หรือ กบข.) ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนการออมแห่งชาติ
เมื่อเริ่มซื้อกองทุนออมเงิน ก็การที่ผู้ซื้อเลือกแล้วว่า จะต้องซื้อกองทุนต่อเนื่องทุกปี อย่างน้อย 3% หรือ 5,000 บาท โดยสามารถซื้อแบบปีเว้นปีได้เช่นกัน แต่หากจะซื้อกองทุนนี้แล้ว แนะนำให้ซื้อทุกปี เพื่อตัดปัญหาที่จะอาจจะเกิดขึ้นภายหลัง
สำหรับผู้ที่ซื้อกองทุนและต้องการขาย กองทุนที่ได้ถือไว้ในครอบครอง ต้องทำตามเงื่อนไขนี้ โดยจะขายได้ก็ต่อเมื่อถือครบอย่างน้อย 5 ปีเต็ม และมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์เท่านั้น เนื่องจากหากเป็นไปตามเงื่อนไขนี้ ก็จะทำให้ผู้ซื้อมีเงินก้อนออกมาใช้ ตอนใกล้เกษียณพอดี เป็นไปตามจุดประสงค์ของกองทุนนี้
การจะลงทุนกับ RMF หรือที่เรียกกันว่า กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพหลังเกษียณ ผู้ที่จะลงทุนต้องสำรวจความพร้อม และยอมรับกับทั้ง 3 เงื่อนไขให้ได้ เพราะเมื่อผิดเงื่อนไขเมื่อไหร่ คงได้มีเรื่องกับสรรพากร เข้ามาให้ปวดหัวแน่ๆ ดังนั้นอยากลงทุนระยะยาว จงเลือกลงทุนกับกองทุนที่ผู้ซื้อ สามารถแบกรับความเสี่ยงนั้นได้เป็นหลัก