ลงทุน Crypto กับสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการรักษาความปลอดภัยในระดับหนึ่ง ด้วยการเข้ารหัส และมีการบันทึกธุรกรรมด้วยการกระจายข้อมูลไปได้หลายล้านก๊อบปี้ จึงยากแก่การแทรกแซง บทความนี้จึงมาอธิบายเกี่ยวกับ กลุ่มต่างๆ ของคริปโตที่แยกมาใหม่ และรุ่นบุกเบิก พร้อมพาไปแนะนำวิธีการลงทุนต่างๆ กับเทคโนโลยีเหล่านี้ ปิดท้ายด้วยภาษีตัวร้ายที่ตามมาแบ่งเก็บจากกำไรไป “พัฒนา” ประเทศ
ทุกวันนี้มีเหรียญเหล่านี้มากกว่า 9,600 เหรียญ ซึ่งแต่ละเหรียญแต่ละโปรเจกต์ ก็จะมีฟังก์ชันการใช้งาน จุดประสงค์ และเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน หัวข้อนี้จะเป็นการแยกประเภทเหรียญคริปโต ให้นักลงทุนทั้งมือใหม่ได้เห็นภาพชัดขึ้น ก่อนจะไปอ่านรายละเอียดและ เทคนิคการลงทุน ของแต่ละแบบดังนี้
ที่มา: คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คืออะไร? พามือใหม่เข้าใจครบจบในที่เดียว! [1]
โดยการลงทุนกับบกลุ่มนี้ก็มีทั้งนักเทรดฝีมือดีที่เน้นเก็งกำไรระยะสั้น ซึ่งมีความเสี่ยงมากที่จะติดอยู่กับการขายไม่ออก หรือยอมขาดทุนไปทำกำไรกับเหรียญใหม่ และอีกกลุ่มที่มองการณ์ไกลโดยเน้นการถือครองไว้ระยะยาว ยกตัวอย่าง Bitcoin ที่เน้นถือรอช่วง bitcoin halving ไปเรื่อยๆ ทุก 4 ปี เพราะทุกครั้งที่เกิดก็จะมีการปรับเพดานขึ้นไปเรื่อย และรอกินกำไรจำนวนมาก แบบไม่สนว่าจะขึ้นหรือลงในระยะสั้น
ที่มา: คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คืออะไร? พามือใหม่เข้าใจครบจบในที่เดียว! [1]
โดยกลุ่ม Defi ก็จะเป็นแอปที่พัฒนามาจาก โปรเจกต์ใน block chain อีกที ที่เราสามารถนำเหรียญที่เรามีไปทำกิจกรรมต่างอันก่อให้เกิดรายได้ อย่างดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม การฝากรับเหรียญตามระบบ Proof of stake ซึ่งก็จะมีรายละเอียดบริการดังนี้
ที่มา: DeFi คืออะไร [2]
นอกจากจากมีวิธีสร้างรายได้จากหลายวิธีก่อนหน้าแล้ว ยังมีวิธีอีกมากมายในกลุ่มอื่นๆ อย่าง Gamefi โลกเสมือน และ NFT อีกด้วย ซึ่งนักวาด นักแต่งเพลง ก็สามารถลงผลงานตัวเองในรูปแบบ NFT ได้ หรืออสังหาก็สามารถใช้เป็น NFT ได้ทั้งของจริง และโลกเสมือน ทั้งคนดังต่างๆ ก็สามารถออกเหรียญของตัวเองได้ในลักษณะของ Token NFT
อีกหนึ่งเกมบนบล็อกเชนที่ให้รางวัลด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นรูปแบบ Token NFT, สกินตัวละคร หรือคริปโต โดยจะได้รับจากการพิชิตด่า