สินทรัพย์ลงทุน ในปัจจุบันนั้นเข้าถึงง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะมีทั้งโบรกเกอร์รับลงทุนเกิดขึ้นมามากมาย แถมอายุไม่ถึง 20 ก็สามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์บางอย่างได้แล้ว อย่างตัวบิตคอยน์ หรือคริปโต บางโบรกเกอร์ซื้อกองทุน ซึ่งในบทความนี้ก็จะเป็นการแนะนำกองทุนที่จะนำไปสู่อิสรภาพทางการเงิน ได้ในระดับหนึ่ง พร้อมยกตัวอย่างการลงทุนอย่างง่าย จากงานประจำ
การมีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ แม้ในขณะที่หลับอยู่หรือในวันหยุดแม้จะเป็นทศนิยมหรือหลักร้อย ก็เป็นสัญญาณที่ดีในการมีอิสรภาพทางการเงินหรือการงาน Financial Freedom [1] ภาวะการไร้ความกังวลเรื่องเงิน ซึ่งหากมีรายได้เข้ามาต่อเนื่องในระดับหนึ่งแล้ว ก็คือการใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานนั่นเอง ซึ่งเอาง่ายๆ “อิสรภาพทางการเงิน” ก็คือการมีรายได้แบบ Passive มากกว่ารายจ่ายต่อเดือน
ใช่แล้ว จุดเริ่มต้นก็คือการสร้าง Passive Income ด้วยตัวเองก่อน ซึ่งก็คือการเลือกลงทุนใน สินทรัพย์ลงทุน บางอย่าง ไม่ว่าจะใช้เงินหรือแรง แล้วเราได้ผลตอบแทนเรื่อยๆ จนกว่าที่สินทรัพย์ตัวนั้นจะเสื่อมมูลค่าลง อย่างลงทุนไป 100,000 ในหุ้นที่ให้เงินปันผลที่จ่ายทุก 4% ทุกปี เราก็จะมีเงินฟรีๆ 4000 บาท และยังได้ราคาในการเติบโตของหุ้นตัวนั้นๆ ด้วย
หัวข้อนี้ก็คือการนำการแนะนำสินทรัพย์ต่างๆ ที่สามารถสร้างเงินให้กับเราได้ในรูปแบบของดอกเบี้ย ปันผล หรือส่วนต่างจากมูลค่าของสินทรัพย์นั้นๆ โดยจะนำเสนอในเรื่องของผลตอบแทน โดยเราจะมาไล่เรียงสินทรัพย์ต่างๆ จากข้างต้นว่าควรเลือก สินทรัพย์ลงทุน ไหน เพื่อรายได้แบบ Passive ซึ่งก็มีสินทรัพย์ดังต่อไปนี้
การออมที่นับว่ามีความเสี่ยงที่ต่ำที่สุด ซึ่งผลตอบแทนก็จะมาในรูปของดอกเบี้ยที่ 0.25 – 1.5% ต่อปี โดยขึ้นอยู่กับนโยบาย และแต่ละประเภทของบัญชีด้วย ซึ่งปัจจุบันคงไม่มีใครฝากเพื่อหวังกินกำไรจากดอกเบี้ยเป็นหลักแล้ว มันจึงเป็นที่เซฟเงินไว้ เพื่อการนำไปใช้จ่ายต่างๆ ระยะสั้นมากกว่า
ก็คือการลงทุนโดยที่เราเป็นเจ้าหนี้ และเงินทุนที่เราลงทุนไปก็จะเป็นเงินที่เราปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ออกตราสารได้ อย่างรัฐบาลกับบริษัทต่างๆ ข้อดีของการลงทุนนี้จึงมีความเสี่ยงที่น้อย เพราะหากประเทศไม่ล้มละลายก็ไม่มีทางที่รัฐบาลจะไม่จ่ายหนี้แน่นอน ผลตอบแทนก็ยังน้อยการเงินเฟ้ออยู่ดีที่ 0.4 – 2% ต่อปี ซึ่งเหมาะกับคนที่หาที่พักเงิน การฝากที่จะไม่เสียเงินต้น และได้ดอกเบี้ยมามากกว่าธนาคารแน่ๆ
กองทุนที่จะรวมเงินก้อนไปบริหารเกี่ยวกับพวกอสังหาต่างๆ โดยที่เราไม่ต้องลงทุนไปเยอะๆ คนเดียว แถมยังต้องคอยดูแล และหาคนมาเช่าอยู่เรื่อยๆ จึงมีการจัดตั้งกองทุนนี้มาเพื่อความสะดวก ผลตอบแทนก็จะอยู่ในรูปแบบของปันผล และส่วนต่างราคาจากกองทุน ผลตอบแทนเฉลี่ยก็จะอยู่ที่ 4 – 8% ต่อปี ซึ่งจากข้อมูลจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็เฉลี่ยอยู่ที่ 7.25% [2] แล้วแต่ประเภทและทำเลของอสังหานั้นๆ ด้วย
ตราสารที่แสดงสิทธิ์ของการเป็นเจ้าของกิจการ จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์การลงทุน เหมือนเราเอาเงินไปให้บริษัททำธุรกิจ กำไรที่เหลือจากการทำธุรกิจจึงจ่ายแบบปันผลต่อปี และยังได้หรือขาดทุนจากส่วนต่างของราคาหุ้นด้วย อย่างซื้อตอนถูกขายตอนแพง มันจึงมีความผันผวน และรายได้ที่ไม่แน่นอน เช่นปันผลที่แล้วแต่กำไรที่ปีนั้นทำได้ และราคาของหุ้นที่ขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งผลตอบแทนเฉลี่ยก็จะอยู่ที่ 8 – 12% ต่อปีเลย
ก่อนอื่น Active Income ก็คือการที่เอาแรง และเวลาของเรา ไปแลกเงินมาใช้ ไม่ว่าจะงานประจำหรือฟรีแลนซ์ ซึ่งจะดีกว่าไหมหากเรานำเงินที่หามาได้จากการทำงาน มาลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพราะหากเราสะสมเงินจากการลงทุนได้มากพอ งานก็จะไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำอีกต่อไปแล้ว พร้อมตัวอย่างในการลงทุนว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะได้เงิน 500 บาทโดยที่เราจะสามารถทำงานน้อยลง และมีเวลามากขึ้น
ที่มา : 6การลงทุนสร้างpassive income ทำได้ง่ายๆผ่านมือถือ(พร้อมวิธีซื้อ) | Finansia Funds Online [3]
ในการลงทุนในแต่ละ สินทรัพย์ลงทุน ก็จะมีความเสี่ยงที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน ซึ่งการจะได้เงิน Passive Income 500 บาทต่อวันใน 4 แบบนี้ในแบบหุ้นจะดูเป็นไปได้มากที่สุด รองลงมาก็กองทุนอสังหาฯ โดยเราอาจจะค่อยๆ DCA หรือการซื้อทีละนิดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการทบเงินต้นไปอีกและนำปันผลไปลงทุนต่อได้ ในระยะยาวก็อาจจะได้มากกว่าวันละ 500 ก็ได้